วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ตอบแทน

ตอบแทน
การตอบแทนเป็นผลมาจากการที่ได้รับความช่วยเหลือ โดยการตอบแทนนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลที่ได้รับการช่วยเหลือว่าจะตอบแทนในรูปแบบใด มีความเหมาะสมหรือไม่ในการตอบแทน และความสามารถที่จะตอบแทนผู้ที่ให้การช่วยเหลือ

สิ่งสำคัญที่ควรให้ในการตอบแทน
1. ให้ใจ
2. ให้รอยยิ้ม
3. ให้มิตรภาพ

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่สิ่งตอบแทนที่เป็นวัตถุที่มีค่าทางกาย แต่ล้วนเป็นสิ่งที่ล้ำค่าทางจิตใจ ส่งผลให้ผู้ที่ช่วยเหลือมีความสุขในการที่จะช่วยเหลือและทำความดีต่อไป

ช่วยเหลือ

ช่วยเหลือ

การช่วยเหลือนั้นถือเป็นน้ำใจและการทำดีอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือได้ผ่อนหนักเป็นเบา จากที่เคยทุกข์ก็สามารถเกิดสุขได้ แม้ว่าการช่วยเหลือนั้นไม่ได้ค่าตอบแทนที่เป็นวัตถุทางกายแต่สิ่งที่ได้รับมากกว่านั้น ก็คือ ความสุขทางใจ
การช่วยเหลือนั้นมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับ ฐานะ สถานภาพ และอื่นๆ รวมถึงความสามารถในการให้ความช่วยเหลือบุคคลอื่นว่ามีความสามารถพอหรือไม่ที่จะให้การช่วยเหลือ

สิ่งสำคัญที่ควรมีในการให้ความช่วยเหลือ
1. เต็มใจ
2. เต็มที่
3. มีความสามารถ
4. ปราศจากผลตอบแทนส่วนตัว

ในข้อที่ 4 นั้น ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้การช่วยเหลือเป็นไปในทางที่ดี คือ เป็นการช่วยเหลือที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน แต่ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจและเต็มที่เท่าที่ความสามารถของตนมี การช่วยเหลือที่เป็นตัวอย่างเห็นได้ชัดก็คือ การตั้งชมรมค่ายอาสาพัฒนาชนบทของมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งเป็นการดีที่จะช่วยเหลือสังคม และประเทศต่อไป

*บุคคลช่วยเหลือบุคคล สังคมดี
สังคมช่วยเหลือสังคม ประเทศดี
ประเทศช่วยเหลือประเทศ โลกน่าอยู่ดี

รางวัล

รางวัล

รางวัลเป็นสิ่งสุดท้ายที่เกิดจากความสำเร็จหรือชัยชนะ ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในเกมส์การแข่งขันทั้งในเกมส์กีฬาและเกมส์ชีวิต
รางวัลเป็นสิ่งสำคัญในเกมส์การแข่งขัน แม้เกมส์การแข่งขันบางอย่างอาจไม่มีรางวัล ให้เห็นแต่ที่สิ่งที่ได้รับจากการประสบความสำเร็จหรือชัยชนะ นั้นก็คือ ความภาคภูมิใจและการได้รับความยินดีจากผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นรางวัลของผู้ได้รับชัยชนะที่ดีที่สุดก็เป็นไปได้
ทุกคนล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ในการทำงานเป็นของตัวเอง ทำเป็นชีวิตประจำวันมีทั้งหนัก เหน็ดเหนื่อย ย่อท้อ อ่อนล้า หรือแม้กระทั่งการมีความสุขในหน้าที่การงาน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นได้กับทุกคน จะทำอย่างไรให้สิ่งที่ลำบากผ่านพ้นไปได้และจะทำอย่างไรให้สิ่งที่มีความสุขจะอยู่กันไปตลอด
การตั้งรางวัลให้กับชีวิต หน้าที่การงานจึงมีส่วนช่วยที่จะทำให้เกิดความสำเร็จหรือได้รับชัยชนะได้ เช่น การตั้งรางวัลเป็นรถยนต์ 1 คัน โดยที่ผู้ตั้งรางวัลจะต้องรู้ความสามารถของตนเองก่อนว่ามีความสามารถที่จะทำได้หรือไม่ เมื่อรู้ว่ามีความสามารถพอ สิ่งที่จะต้องทำ คือ ความขยันขันแข็ง ในหน้าที่การงาน เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา มุ่งมานะ และที่สำคัญ ก็คือ ความอดทน ในการทำงานนั้น เวลาก็เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่ง การรอคอยเวลา รอคอยรางวัลนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะสิ่งที่ดี คือ การฆ่าเวลาด้วยความขยันขันแข็ง และอดทนต่อหน้าที่การงาน เมื่อถึงเวลานั้นแล้วรางวัลก็จะมาอยู่ในมือของคุณ

*รางวัลที่ดีที่สุด คือ รางวัลที่ทำด้วยความสามารถของตัวเอง

พ่ายแพ้

พ่ายแพ้
การพ่ายแพ้นี้ทำให้เกิดการเรียนรู้ข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นผลให้เกิดการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ โดยยกเอาชัยชนะมาเป็นแรงบันดาลใจ นี่แหละคือการพ่ายแพ้ที่ดี การพ่ายแพ้ที่ไม่ดีนั้น ก็คือ การพ่ายแพ้ที่ทำให้เกิดความเสียอกเสียใจเป็นอันมาก การล้มเหลวเมื่อพ่ายแพ้ ย่อท้อไม่เกิดการพัฒนาและแก้ไขข้อผิดพลาด จมปลักกับความเสียใจที่ได้รับจากการพ่ายแพ้
ในชีวิตจริงการพ่ายแพ้ก็เกิดได้บ่อยครั้ง ในหลายลักษณะ นอกจากเกมส์การแข่งขันกีฬาแล้ว ยังมีเกมส์ชีวิตที่ทุกคนต้องพบเจอทั้งในการเรียน การทำงานหรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันก็ล้วนแล้วแต่มีความพ่ายแพ้ เช่น การสอบตก ถือว่าเป็นการพ่ายแพ้อย่างหนึ่งของการเรียน การทำงานผิดพลาดหรือไม่บรรลุตามเป้าหมายก็เป็นอีกอย่างของความพ่ายแพ้ สิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเกิดความพ่ายแพ้ ก็คือ การยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมทั้งเรียนรู้ความพ่ายแพ้นั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขข้อผิดพลาด ข้อบกพร่องเป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ เมื่อถึงเวลานั้นคุณอาจจะไม่รู้จักความพ่ายแพ้นั้นก็เป็นไปได้

*การพ่ายแพ้ที่ดี คือ การยอมรับความพ่ายแพ้และพร้อมที่จะแก้ไข พัฒนาและเปลี่ยนแปลงต่อไป

ชัยชนะ

ชัยชนะ

ชัยชนะ คือ ความสำเร็จที่ได้มาจากองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น การฝึกฝน การเสาะแสวงหา การตั้งมั่น การตั้งใจ การอดทน รวมไปถึงโอกาสเวลา สถานที่และอีกมากมายที่เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จ
ในสังคมปัจจุบัน ชัยชนะได้ปรากฏในหลายลักษณะ ทั้งในเรื่องการเรียน ที่ชัยชนะก็คือ การจบการศึกษาของผู้เรียน องค์ประกอบที่ได้กล่าวมาแล้วตอนต้น มีผลอย่างยิ่งที่ทำให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จและได้รับชัยชนะในที่สุด
เรื่องของเกมส์กีฬาก็เป็นเรื่องสำคัญที่ชัยชนะต้องมาก่อน ซึ่งผู้ที่ได้รับชัยชนะจะมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งและเห็นได้ในปัจจุบัน การเป็นผู้ชัยชนะในเกมส์กีฬานั้นไม่ได้มาจากองค์ประกอบที่กล่าวไว้เพียงอย่างเดียว ส่วนหนึ่งอาจมาจากความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ที่ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งขององค์ประกอบไป ทำให้คู่ต่อสู้พ่ายแพ้

*ชัยชนะ คือ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
*พ่ายแพ้ คือ ส่วนหนึ่งของความผิดพลาด
*ความสำเร็จที่ดี คือ การรักษาชัยชนะที่ดี

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ความสำคัญ

ความสำคัญ

สรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญอยู่ในตัวของมันเอง สำคัญน้อยสำคัญมากก็แล้วแต่สภาพแวดล้อมหรือสังคมที่อยู่ทั้งสิ่งมีชีวิต ไม่มีชีวิตหรือแม้แต่มนุษย์เองก็ตาม
ต้องไม้ต้องการแสงแดด ดิน น้ำ หรือแม้แต่สัตว์เล็กๆ ที่ช่วยพรวนดิน คือ ใส้เดือน หรือสัตว์ที่ช่วยในการขยายพันธุ์ คือ นก ผีเสื้อและแมลงต่าง ๆ ทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตต่างพึ่งพากันจนเกิดเป็นวัฏจักรที่ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยร่วมกัน ซึ่งแต่ละอย่างก็มีความสำคัญแตกต่างกันไปตามธรรมชาติ
มนุษย์ก็ต้องพึ่งพาวัฏจักรของธรรมชาติและที่สำคัญก็ต้องพึ่งพามนุษย์ด้วยกันเอง ความสำคัญของแต่ละคนจะมากน้อยเพียงไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลดังนี้
1. หน้าที่การงาน
2. เวลา
3. สถานที่
4. สังคม / สภาพแวดล้อม
5. เพศ
6. อายุ / วัย
7. ความรู้

ในสถานศึกษาก็จะมีลำดับความสำคัญของแต่ละหน้าที่อย่างเห็นได้ชัด ในมหาวิทยาลัยก็จะมีอธิการบดีมหาวิทยาลัย เป็นผู้อยู่สูงสุดของความสำคัญ รองอธิการบดีก็จะมีความสำคัญรองลงมาอีกเป็นลำดับขั้นตอน หรือแม้แต่คณะบดีของแต่ละคณะก็มีความสำคัญสูงสุดในคณะนั้น ๆ กระนั้นแล้วสถานศึกษาจะเป็นสถานศึกษาไม่ได้ถ้าขาด ครู/อาจารย์ และนักเรียน/นักศึกษา และวิชาเรียน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนขององค์ประกอบในสถานศึกษา แต่ที่ไม่ควรไม่ข้ามความสำคัญ ที่เป็นองค์ประกอบของสถานศีกษาด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ยาม พ่อค้า แม่ค้า ภารโรง หรือบุคคลทั่วไปที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาล้วนแล้วแต่มีความสำคัญแตกต่างกันออกไป


*ทุกอย่างมีความสำคัญเพียงแต่ว่าคุณหาความสำคัญของมันเจอหรือไม่

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ฐานะ ความรู้

ฐานะ ความรู้
ในสังคมปัจจุบันมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของ ฐานะ ความรู้ ทั้ง 2 อย่างถูกแบ่งออกอย่างเห็นได้ชัดเจน
ฐานะ แบ่งออกเป็น
1. มหาเศรษฐี
2. เศรษฐี
3. รวย
4. พอมีพอกิน
5. ยากจน
ความรู้ แบ่งออกเป็น
1. อัจฉริยะ
2. เก่ง
3. พอใช้ได้
4. ไม่เก่ง
5. โง่

เมื่อแบ่ง ฐานะ ความรู้ ออกเป็นข้อ ๆ ได้แล้วให้คุณคาดเดาสภาพสังคมว่ามีลักษณะอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลยเมื่อเทียบอัตราส่วนของคนที่มากกว่าและคนที่น้อยกว่าในสังคมปัจจุบัน ทำอย่างไรให้คนไทยอยู่ในหัวข้อต้น ๆ ที่ถูกแบ่งออก เริ่มจากส่วนไหน เริ่มอย่างไร นี่คือปัญหาที่จะต้องแก้ไข เพื่อให้เกิดสังคมที่ดีและมีคุณภาพพร้อมที่จะเผชิญกับอนาคต

*อัจฉริยะ เพราะ รู้มาก
เก่ง เพราะ รู้
โง่ เพราะ ไม่รู้

*คนรวย อย่า หยิ่ง
คนจน อย่า แล้งน้ำใจ

ความแตกต่าง

ความแตกต่าง
ความแตกต่างทำให้เกิดความหลากหลาย ความหลากหลายทำให้เกิดการพึ่งหากันในสังคม เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่พึ่งพากัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน ทั้งเพศ วัย ที่อยู่ หน้าที่การงาน
ตัวอย่างการพึ่งพากัน เช่น คุณต้องออกไปทำงานตอนเช้า คุณอาจต้องพึ่งพารถเมล์หรือแท็กซี่ รถเมล์หรือแท็กซี่ก็ต้องพึ่งพาผู้โดยสารเพื่อให้เกิดรายได้ ตอนเที่ยงคุณไปทานข้าวที่ร้านค้า คุณก็ต้องพึ่งแม่ค้าในการทำอาหารให้ทาน แม่ค้าทำอาหารก็ต้องพึ่งแม่ค้าขายผักหรือแม่ค้าขายของต่าง ๆ เพื่อนำมาทำอาหาร แม่ค้าขายผักก็ต้องพึ่งชาวสวนที่เป็นคนปลูกผัก คนปลูกผักก็ต้องพึ่งบริษัทที่ผลิตพันธุ์พืชหรือบริษัทที่จำหน่ายปุ๋ยเพื่อใช้ในการเกษตร
สิ่งเหล่านี้เป็นวัฏจักรแค่เพียงส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมซึ่งเกิดจากความแตกต่างของ บุคคล สถานที่ สภาพแวดล้อมและอื่น ๆ อีกมากมาย



*ความเหมือนกันทำให้เกิดการแข่งขันกัน ความแตกต่างกันทำให้เกิดการพึ่งพากัน

เรียนรู้

เรียนรู้
ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ถ้ามีการเรียนรู้ แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จแต่สิ่งที่ได้มาคือความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ การเรียนรู้นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องการบังคับให้เกิดการเรียนรู้ แต่เป็นสิ่งที่สามารถขึ้นมาเองได้ ด้วยจิตสำนึกและความสนใจที่มีต่อสิ่งที่อยากเรียนรู้

เหตุผลที่ทำให้เกิดการเรียนรู้
1. ความสนใจส่วนตัว
2. เพศ
3. อายุ / วัย
4. สิ่งแวดล้อม

สาเหตุดังกล่าวเหล่านี้มีผลต่อการเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง และมีผลทำให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น วัยรุ่นต่างก็สนใจในดนตรีและศิลปินต่าง ๆ ตามแนวที่ตัวเองชอบจึงทำให้เกิดความสนใจอยากที่จะศึกษา เรียนรู้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตัวเองต้องการ
ผู้ใหญ่อาจจะสนใจทางด้านการเมืองจึงทำให้เกิดการติดตามข่าวสาร ชอบดูข่าวการเมืองเป็นกิจวัตร มีการพูดคุยกันในหมู่เพื่อนฝูง สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นการเรียนรู้ทั้งสิ้น

*ไม่ผิดที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่แตกต่าง แต่ผิดที่จะหยุดการเรียนรู้

การเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งที่มาจากเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ผลของการเปลี่ยนแปลง ว่าจะเกิดขึ้นในลักษณะใดดีหรือไม่ดีหรือต้องปรับปรุงแก้ไข แต่กระนั้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือการรอและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง

คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หลายลักษณะ เช่น

1. การแต่งกาย

2. สภาพแวดล้อม / ความเป็นอยู่

3. อาหาร

4. กิจวัตรประจำวัน

5. จิตใจ

จิตใจ ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในลักษณะอื่นๆ หากมีจิตใจดีสงบและมีสมาธิก็สามารถที่จะควบคุมจิตใจได้ดีส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงลักษณะอื่นๆ ดีตามไปด้วย

หากจิตใจไม่สงบ วุ่นวาย ไม่มีสมาธิก็ยากที่จะควบคุมส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ มีผลกระทบตามมาด้วย




*จิตใจมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง จิตใจดี การเปลี่ยนแปลงก็ดีตามมาด้วย

สังเกต?

สังเกต?

การสังเกตถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ดีและมีประสิทธิภาพ หากขาดสิ่งนี้แล้วอาจทำให้การเรียนรู้บกพร่องหรือขาดประสิทธิภาพได้ ดังนั้นการฝึกให้ตัวเองเป็นคนช่างสังเกตนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะพัฒนาการเรียนรู้

สิ่งที่จำเป็นและมีผลต่อการสังเกต คือ
1. เรื่องที่สนใจ
2. ความอยากรู้อยากเห็น
3. สมาธิ / ความอดทน
4. คิดวิเคราะห์

จะเห็นได้ว่า 4 ข้อที่กล่าวมานี้หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว อาจทำให้การสังเกตขาดตกบกพร่องไปได้
ยกตัวอย่างการสังเกตการเดินของมด

1. เรื่องที่สนใจ ก็คือ การเดินของมด
2. สิ่งที่อยากรู้ ก็คือ ทำไมมดจึงเดินเป็นแถว
3. เมื่อได้เรื่องที่สนใจและความอยากรู้ของตัวเอง ต่อมาคือ ต้องมีสมาธิและความอดทนในการใจจดใจจ่อต่อสิ่งที่กำลังสังเกตและเรียนรู้
4. ข้อสุดท้าย คือ การคิดวิเคราะห์ อาจผิดหรือถูกไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ คุณได้เกิดทักษะการสังเกตที่ดีแล้ว